“บาดแผลของนางร้ายแรงเพียงใด?” มีเสียงหนึ่งถามขึ้น อาจจะเป็นเสียงของเจ้าชายเคนดริค
พระนางทรงรู้สึกว่าอิลเลพราใช้ฝ่ามือลูบพระนลาฏ แล้วคำสุดท้ายที่ทรงได้ยินก่อนจะหลับไปเป็นเสียงของอิลเลพรา
“บาดแผลทางกายนั้นเล็กน้อย ฝ่าบาท บาดแผลทางใจของพระนางต่างหากที่หนักหนา”
เมื่อราชินีเกว็นทรงตื่นบรรทมอีกครั้ง ทรงได้ยินเสียงเปลวไฟปะทุ พระนางทรงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ทรงกระพริบพระเนตรหลายครั้ง ขณะที่ทอดพระเนตรไปรอบ ๆ ห้องแสงสลัว ผู้คนที่รายล้อมหายไปแล้ว เหลือเพียงสเตฟเฟนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างพระแท่น อิลเลพราที่ยืนอยู่เหนือพระนาง กำลังป้ายยาให้ที่ข้อพระกร และอีกคนหนึ่ง ชายชราใจดีที่กำลังมองดูพระนางด้วยความเป็นห่วง ราชินีเกว็นเกือบจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร แต่กลับต้องพยายามนึก พระนางทรงรู้สึกอ่อนล้า เหนื่อยอ่อนมากเกินไป ราวกับไม่ได้บรรทมมาหลายปี
“ฝ่าบาท?” ชายชราทูล พลางก้มเข้ามาหา เขาถือบางสิ่งขนาดใหญ่อยู่ด้วยสองมือ ราชินีเกว็นทอดพระเนตรมองและเห็นว่ามันคือหนังสือปกหนัง
“ข้าคืออะเบอร์ธอล” เขาทูล “ครูผู้ชราของท่าน ทรงได้ยินข้าหรือไม่?”
ราชินีเกว็นทรงกลืนพระเขฬะแล้วพยักพระพักตร์ช้า ๆ หรี่ปรือพระเนตรขึ้นเพียงเล็กน้อย
“ข้ารอเฝ้าอยู่หลายชั่วโมง” เขาทูล “ข้าเห็นท่านทรงกระสับกระส่าย”
พระนางทรงพยักพระพักตร์ช้า