“ข้าเคยได้ยินเรื่องคนไม่กี่สิบคนรับมือกับทหารหลายพันที่หุบเขานั่น” ทหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“มันเป็นตำนานพื้นบ้าน” ทหารอีกคนเอ่ยถากกาง “ถูกล่ะ เราจะได้เปรียบเรื่องการไม่ทันตั้งตัว แต่อย่างไรอีกเล่า? เราจะไม่มีกำแพงเมืองคอยปกป้องอยู่นะ”
“แต่เรามีกำแพงตามธรรมชาติคอยปกป้อง” ทหารอีกคนกล่าวโต้ “ภูเขาพวกนั้นไง หน้าผาหินสูงหลายร้อยฟุตพวกนั้นน่ะ”
“ไม่มีสิ่งใดปลอดภัยหรอก” อีเร็คกล่าวเสริม “ตามที่ท่านดยุคบอก พวกเราจะตายที่นี่ หรือจะตายข้างนอกนั่น ข้าว่าพวกเราควรจะไปตายข้างนอกนั่น ชัยชนะเชิดชูคนกล้า”
ในที่สุดท่านดยุคก็พยักหน้า หลังจากที่ลูบเคราอยู่นาน ก่อนจะม้วนแผนที่เก็บ
“เตรียมอาวุธของพวกเจ้า!” เขาตะโกนบอก “เราจะออกเดินทางคืนนี้!”
อีเร็คแต่งชุดเกราะเต็มยศอีกครั้ง ดาบของเขาแกว่งอยู่ข้าวเอว ขณะที่เดินไปตามทางเดินในปราสาทของท่านดยุค มุ่งหน้าไปในทิศตรงข้ามกับคนอื่น ๆ เขามีงานสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำก่อนจะจากไปเพื่อทำศึกที่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา
เขาต้องไปพบอลิสแตร์
นับตั้งแต่พวกเขากลับมาจากการรบ อลิสแตร์คอยอยู่ในปราสาท อยู่ในห้องที่สุดโถงทางเดินของนาง คอยให้อีเร็คมาหา นางรอคอยการได้พบกันอย่างมีความสุข อีเร็ครู้สึกใจหายเมื่อรู้ว่าเขาจะต้องบอกข่าวร้ายแก่นาง ว่าเขาจะต้องจากไปอีกครั้ง แต่เขาก็รู้สึกสุขสงบเมื่อรู้ว่าอย่างน้อยที่สุดนางจะปลอดภัยอยู่ที่นี่ ภายในกำแพงปราสาทเหล่านี้ เขารู้สึกมุ่งมั่นมากขึ้นที่จะให้นางปลอดภัย พ้นจากพวกจักรวรรดิ