แต่นานเท่าไรกันเล่า?
“การเป็นราชานี่ช่างน่าขัน” มีเสียงดังขึ้น
ราชากาเร็ธทรงหันมาและต้องประหลาดพระทัยที่เห็นอาร์กอนยืนอยู่ตรงนั้น ห่างไปราวหนึ่งฟุต เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวมีผ้าคลุมศีรษะและถือไม้เท้า อาร์กอนมองพระองค์อยู่ มีรอยยิ้มที่มุมปาก แต่ดวงตาเขาไม่ได้ยิ้มด้วย มันเปล่งประกายจ้องตรงมาที่พระองค์อย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งทำให้ราชากาเร็ธทรงระวังพระองค์ ดวงตาของเขามองเห็นมากเกินไป
มีหลายสิ่งที่ราชากาเร็ธทรงอยากบอกกับอาร์กอน ทรงอยากถามเขา แต่ตอนนี้หลังจากที่ทรงยกดาบไม่สำเร็จ พระองค์กลับนึกเรื่องที่ทรงต้องการถามไม่ออกสักข้อเดียว
“ทำไมท่านถึงไม่บอกข้า?” ราชากาเร็ธทรงโอดครวญ น้ำเสียงแฝงด้วยความสิ้นหวัง “ท่านน่าจะบอกข้าว่าข้าไม่ได้ถูกกำหนดมาให้ยกดาบเล่มนั้น ท่านควรจะช่วยไม่ให้ข้าต้องอับอาย”
“แล้วทำไมข้าต้องทำเช่นนั้น?” อาร์กอนถาม
ราชากาเร็ธทรงพระพักตร์บึ้งตึง
“ท่านไม่ใช่ที่ปรึกษาที่แท้จริงของราชา” ราชาทรงตรัส “ท่านอาจจะให้คำปรึกษาที่ถูกต้องแก่พระบิดาของข้า แต่ไม่ใช่กับข้า”
“อาจเป็นเพราะพระบิดาของท่านทรงสมควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง” อาร์กอนตอบ
ราชากาเร็ธทรงกริ้วอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเกลียดชายผู้นี้ และทรงโทษเขา
“ข้าไม่ต้องการเห็นท่านแถวนี้อีก”