เสียงหัวเราะนั้นยิ่งดังมากขึ้นกว่าเดิม เมิร์คตระหนักแล้วว่าการอยู่อย่างใจเย็น โดยไม่ตอบสนองด้วยความรุนแรง ช่างเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่งนัก
“ถ้างั้นพวกเราก็โชคดีสิเนี่ย!” อีกคนตอบ
พวกมันหัวเราะอีกครั้ง แล้วทั้งหมดก็เงียบลง เมื่อหัวหน้าของพวกมันก้าวมาข้างหน้าและพูดใส่หน้าเมิร์ค
“แต่ทว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใกล้จนเมิร์คสามารถได้กลิ่นลมเหม็น ๆ ที่ออกมาจากปาก “พวกข้าอยากจะทำร้ายเจ้า”
ชายอีกคนเข้ามาด้านหลัง เขารัดแขนหนา ๆ รอบลำคอของเมิร์ค และเริ่มรัดแน่นขึ้น เมิร์คอ้าปากกว้างในขณะที่กำลังโดนบีบคอ แรงบีบแน่นมากพอที่จะทำให้เขาเจ็บปวด แต่ไม่มากพอที่จะตัดขาดอากาศทั้งหมด เขาสามารถตอบสนองกลับด้วยการเอื้อมมือไปข้างหลังและฆ่าชายคนนี้ซะ มันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย เขารู้ตำแหน่งความดันที่เหมาะสมของปลายแขนที่จะทำให้เขาปล่อยมือออก แต่เมิร์คฝืนตัวเองไม่ให้ทำ
ปล่อยพวกมันไป เขาบอกตัวเขาเอง เส้นทางแห่งความนอบน้อมต้องมีจุดเริ่มต้นที่ไหนสักแห่ง
เมิร์คมองไปที่ผู้นำของพวกมัน
“เอาของของข้าไป อะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ” เมิร์คพูด หายใจหอบ “เอามันไปและไปตามทางของเจ้า”
“ถ้าพวกข้าเอาไป แล้วยังอยู่ที่นี่ล่ะ?” ผู้นำตอบ
“ไม่มีใครถามเจ้าว่าเราสามารถเอาอะไรได้หรือไม่ได้ ไอ้หนู” อีกคนตอบ
หนึ่งในพวกมันเดินออกมาและรื้อค้นเอวของเมิร์ค มือแห่งความโลภกำลังค้นหาของติดตัวอันน้อยนิดที่เขาเหลืออยู่บนโลกนี้