พระราชาทรงลืมพระเนตรขึ้นด้วยความหวาดกลัว ทรงต้องการลบภาพนั้นออกจากความคิด ราชากาเร็ธพระหทัยเต้นแรง ทรงรู้สึกว่านี่คือลางร้าย
แต่ถ้าไม่ทรงทำตอนนี้ก็ไม่ต้องทำอีกตลอดไป
ราชากาเร็ธเอนพระวรกายไปแล้วพยายามยกดาบขึ้นมาด้วยพละกำลังทั้งหมด พระองค์ทรงพยายามอย่างเต็มที่ จนสั่นกระตุกไปทั้งพระวรกาย
แต่ดาบกลับไม่ขยับเขยื้อน เหมือนกับการพยายามจะเคลื่อนย้ายรากฐานของโลก
ราชากาเร็ธยังทรงพยายามมากยิ่งขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดพระองค์ทรงเปล่งเสียงร้องและคำรามออกมา
ครู่ต่อมาก็ทรงล้มทรุดลง
ดาบไม่ขยับแม้เพียงสักนิ้ว
เสียงร้องอย่างตกตะลึงดังไปทั่วท้องพระโรงเมื่อพระองค์ทรงล้มลงกับพื้น ที่ปรึกษาหลายคนรีบเข้ามาถวายความช่วยเหลือ ตรวจดูว่าพระองค์ทรงสบายดีหรือไม่ ซึ่งพระองค์ผลักไสพวกเขาออกไปอย่างรุนแรง พระราชาทรงประทับยืนขึ้นด้วยพระบาททั้งสองข้างด้วยความอับอาย
ราชากาเร็ธทอดพระเนตรดูประชาชนของพระองค์ด้วยความเสียหน้า ทรงอยากรู้ว่าพวกเขามองพระองค์อย่างไรในตอนนี้
พวกเขาต่างหันหลังหนี พากันทยอยเดินออกจากท้องพระโรงไป ราชากาเร็ธทรงเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของพวกเขา ทรงเห็นว่าพระองค์เป็นเพียงราชาอีกองค์หนึ่งซึ่งทำไม่สำเร็จในสายตาของพวกเขา ตอนนี้พวกเขาแต่ละคนได้รู้แล้วว่าพระองค์ไม่ใช่ราชาที่แท้จริง พระองค์ไม่ใช่แม็คกิลผู้ที่โชคชะตากำหนดมา